5 วันรันเจแปน ใครมีแพลนไปโอซาก้า-เกียวโต
เรามีที่เที่ยวอยากให้เพื่อนๆได้ไปลองสัมผัสกับบรรยากาศ
กับไฮไลท์หลักๆในเวลาจำกัด...มีอะไรบ้างตามมาดูกันนนนนน!!
.
ทริปนี้เช่นเคยเราเดินทางกับ Thai Vietjet
แวะลงไทเป 1 ชม. ก่อนเดินทางกันต่อมาที่สนามบินคันไซ
รอบนี้เราไม่ได้ซื้อพาสรถไฟเดินทางในแต่ละวันใช้ประมาณ
300-600 บาทไม่เกินนี้ แต่หากใครชอบความสะดวกก็แนะนำเลยครับ
ที่พักเราจองจาก th.trip.com กันที่ Holiday Inn Osaka Namba ซึ่งเราดูใน Googlemap ก่อนทำการจองแล้วรู้สึกว่าราคาไม่แรงมากและใกล้แหล่งของกิน
เตียงนอนนุ่มโคตรๆ และที่สำคัญปลั๊กเยอะทั่วห้อง เราที่มีอุปกรณ์ต้องชาร์ททิ้งไว้เลิฟมากที่นี่ มีเตารีดให้ด้วยนะ
ห้องน้ำดี มีอ่างให้แช่ อุปกรณ์ครบครัน
#Day1 หลังจากลงจากเครื่องเราก็ตรงมาที่ย่าน โดทงโบริ
เช็คอินที่พักคืนละประมาณ 2500+ ถือว่าคุ้มค่าอยู่นะใกล้แหล่งอาหาร
เป็นจุดปักหมุดหลักของเราเลยเพราะเน้นเดินกินช่วงกลางคืนสบายๆ
ในวันแรกหลังจากเก็บของเสร็จเรียบร้อยเราเดินทางกันไปที่
ชิงช้าสววรค์ Tempozan ตรงจุดนี้เหมาะมาพักผ่อนชิลๆ
นั่งชมวิวพระอาทิตย์ตก หรือใครจะแวะ Aquarium KAIYUKAN ก็ได้อยู่ติดกัน
ก่อนจะเดินทางกลับมาหาอะไรกินกันที่ย่าน Dotonbori
ตกเย็นก็เดินออกมาชมวิวกันที่ถนน โดทงโบริ
เช็คอินกับท่าไฮไลท์กันซะหน่อย
ตามตรอกซอกซอยก็สวยงามและหาร้านอาหารกินกันได้
พักที่นี่คือเดินมาหาไรกินกันทุกวันสบายมาก
และไม่ต้องรีบร้อนเดินทางกลับ รอถ่ายรูปชิลๆแบบไม่ติดคน
นั่งรถไฟอีก 30 นาทีมาแวะชมชิงช้าสวรรค์ Tempozan Ferris Wheel
ที่โอซาก้า อีกหนึ่งแลนด์มาร์คกับชิงช้าสวรรค์สูง 112 เมตร ที่โดดเด่นสุดๆ
บรรยากาศดีโคตรๆหลงรักเลยพอได้มาช่วงกลางคืน
เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ชอบมากๆ มาช่วงดึกๆจะสวยเป็นพิเศษ
เสียดายไม่ได้ขึ้นไปด้านบนเพราะซื้อตั๋วมาผิด
น่าจะโรแมนติกสุดๆ แถมแถวนี้มีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆอย่าง
อควาเรียมด้วยนะ ใครมาโอซาก้าแล้วมีเวลาว่างนั่งรถไฟมาเดินเล่นกันได้เลย
เชื่อว่าเพื่อนๆต้องชอบแน่ๆถ้าได้มาถ่ายรูปเล่นกันที่นี่
มากลางคืนเปิดไฟสวยมว๊ากกกก ไปนั่งเล่นชมวิวกันได้ถ้าจำไม่ผิด 900 เยนต่อคนจ้า
ถ่ายรูปกันสักพักก็เดินทางกลับไปพักผ่อน
#Day2 ปราสาท Osaka เป็นแลนด์มาร์คที่หลายๆคนต้องมาเช็คอิน
ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที ใช้เวลาเที่ยวครึ่งวันเช้าก็น่าจะพอ
ปราสาทโอซากะ สัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า ที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงามและประวัติศาสตร์ที่โดดเด่น หากใครชอบความญี่ปุ่นหล่ะก็ต้องที่นี่แล้วหล่ะ ยิ่งช่วงนี้มีซีรีย์โชกุนด้วย บริเวณรอบๆสามารถมาถ่ายรูปเล่น เดินชมวิวกันได้ หริอจะล่องเรือพร้อมฟังบรรยายประวัติศาตร์ก็ได้เลย ปราสาทโอซากะถือว่าเป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงมากๆ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ มาแวะเยี่ยมชมกันได้เลยเดินทางง่ายมาก
แนะนำจุดสปอตเช็คอินเมื่อเดินมาทางเข้าให้เลี้ยวซ้าย
จะมีมุมสวนและบ่อน้ำถ่ายภาพเช็คอินได้สวยๆเลยแหล่ะ
เดินเล่นรอบๆบรรยากาศดีและอากาศสดชื่นมาก
ชอบสวนสาธารณะของที่นี่สุดๆเหมือนอยู่ในป่าเลย
นั่งชมวิวความงดงามของปราสาทกันเรียบร้อยก็ถึงเวลาเดินทางกลับ
ช่วงเย็นวันนี้เราเลือกเลยจะไปเดินกินที่ไหน
อย่าง Shinsaibashi , Hozenji Yokocho , Dotonbori , ศาลเจ้านัมบะ
จะเก็บแถวๆนี้ได้หมดตามเวลาที่เหลือและเราเลือกไปหอคอย หอคอยซึเท็นคาคุ
และหาอะไรทานแถวนี้ก่อนเดินทางกลับ
แวะมาเช็คอินอีกมุมนึงไม่ค่อยมีคนซักเท่าไหร่ครับ
#Day3 เราจะไปต่อกันที่ Kyoto อันนี้หากเพื่อนๆอยากย้ายโรงแรมไปนอนแถวนั้น
ก็จะช่วยประหยัดเวลาได้เพราะการเดินทางจาก Osaka ไป Kyoto
ใช้เวลาประมาณ 1 ช.ม. หรือใครไม่เหนื่อยที่จะเดินทางก็นอนที่เดิม
วันนี้เรามาเที่ยวกันที่เมือง Uji ถนนชาเขียวและวัดเบียวโดอินกับบรรยากาศเมืองเก่า
ที่บรรยากาศโคตรน่ามาสัมผัสจริงๆ ถ้าเวลาเหลือแนะนำไปเที่ยวต่อ Nara หาน้องกวาง
แต่ว่ามันชิลจัดเราเลยใช้เวลาทั้งหมดกับเมืองนี้แบบอิ่มๆ
อุจิ (Uji) เมืองเล็กๆที่อยากให้เพื่อนๆได้มาสัมผัสบรรยากาศ
อยู่แถวเกียวโตและนารา ขึ้นชื่อเรื่องถนนชาเขียว
บรรยากาศดีโคตรๆเดินเล่นสบาย...ใช้เวลา 1 วันเต็มได้คุ้มที่สุดแล้ว
- สะพานอุจิ (Ujibashi Bridge) เดินเล่นชมวิวแม่น้ำชิลๆกันกับวิวเมืองเก่า
- ถนนเบียวโดอิน โอโมเตะซันโด (Byodoin Omotesando) หาเมนูชาเขียวทานเติมพลัง
- วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) ชมความงามของวัดที่อยู่บนเหรียญ 10 เยน
- สวนอุจิ เกียวโต (Uji River) ชมวิวแม่น้ำกับสวนสาธารณะสวยๆที่เดินเล่นได้ทั้งวัน
- Nakamura Tokichi Byodo-in (Cafe') เติมความหวานแบบชาเขียวกันพร้อมนั่งชมวิว
- Ramen Tanaka Kyu Shoten (ราเมง) ชิมบะหมี่ชาเขียวสูตรเด็ดกันซะหน่อย
บอกเลยว่าแวะมาเที่ยวที่นี่คุ้มค่ามาก อากาศสดชื่น บรรยากาศดีโคตรๆ
มาสัมผัสเมืองแห่งตำนานรักแอบเสียดายมาไม่ทันซากุระ
ถ้ามาช่วงบานพอดีน่าจะสวยโคตรๆเลย..ใครหลงรักในชาเขียวอยากมาเที่ยวแนะนำเลย
.
การเดินทาง
จากเกียวโต ➝ โดยสารรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จากโอซาก้า ➝ โดยสารรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
เช็คอินกับตำนานของที่นี่
มาลองเทสบะหมี่ชาเขียว มีทั้งแบบเย็นและร้อนให้เลือกนะ
ของอร่อยบนถนนเบียวโดอิน โอโมเตะซันโด (Byodoin Omotesando)
สั่งแบบเย็นก็อร่อยไปอีกแบบ
ต่อด้วยของหวานอันนี้ราคา 5000 เยน
คาเฟ่นั่งชมวิวเพลินมากสวยโคตรๆ
ด้านนอกก็ถ่ายรูปเช็คอินกันได้
เดินมาต่อกันที่วัดเบียวโดอิน มีค่าเข้าชม
เป็นวัดที่อยู่บนเหรียญ 10 เยน หลายๆคนก็จะแวะมาชมความงดงามกัน
แวะเข้ามากันได้เลย สวยงามและมีมุมให้เดินชมค่อนข้างเยอะ
เดินต่อมาอีกนิดกับสวนสาธารณะของที่นี่ ลมเย็นสบายมาก
เดินกลับมาทางเดิมแวะด้านล่างถ่ายรูปเช็คอินกับอูจิกันซักหน่อยก่อนเดินทางกลับ
#Day4 ไปกันต่อกับ วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส ที่ๆคุณจะอยากมาใส่ชุดยูกาตะเดินเล่น
ใช้เวลาเดินทางแค่ 20 นาทีจากเกียวโต และ 1 ชม. จากโอซาก้า
มาชื่นชมมรดกโลก ถ่ายรูปเล่นพร้อมขอพรได้เต็มวัน
สำหรับชุดจะมีให้เช่า ราคาเริ่มต้นที่ 3,000 - 22,000 yen เลยแล้วแต่ชุด
เอาชุดมาคืน 6 โมงเย็น ถ้าเรามาไวก็ใส่ไปเดินเล่นในย่านอื่นเพิ่มเติมอย่าง กิออน เป็นต้น
清水寺 วัดคิโยมิสึ หนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเกียวโต
หรือที่เราเรียกกันว่าวัดน้ำใส เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองนี้เลย
ช่วงซากุระบานหรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่จะสวยโคตรๆเลย
ใครอยากขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ให้มาดื่มน้ำจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall)
ทั้ง 3 สาย ที่ว่ากันว่าเสริมเรื่องของ การศึกษา ความรัก และสุขภาพ
เปิดทุกวัน การเดินทาง รถไฟ > รถบัส
สำหรับใครที่พักอยู่โอซาก้าแบบเราก็ประมาณ ชั่วโมงขึ้นไป
ที่นี่เหมาะมากๆที่จะใส่กิโมโนถ่ายรูปเล่น
ใครไปเที่ยวที่เกียวโตก็อย่าลืมแวะมรดกโลกกันดูนะสวยงามมากๆเลย
เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่คนไทยจะแวะมา
เช่ากิโมโนหรือยูกาตะมาใส่กันได้สร้างบรรยากาศไปอีกแบบ
มุมนี้สวยมากมาเดินเล่นกัน สวนใครอยากเข้าไปชมข้างไหนไหมก็แล้วแต่เลย
เดินเล่นบริเวณรอบๆวัดก็คุ้มแล้วหล่ะ
อย่าลืมแวะกันมาน้ากับ วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส
#Day5 Universal Japan สวนสนุกที่ต้องใช้เวลาทั้งวันอยู่ที่นี่
ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที ที่นี่เปิด 8 โมง มาไวจะดีมากได้เล่นเครื่องเล่นครบๆ
ตั๋วเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2000+ ค่าใช้จ่ายอาหารการกินด้านในน่าจะไม่เกินคนละ 1 พันบาท
20 ข้อน่ารู้ก่อนไป Universal Japan
แน่นอนว่าไปโอซาก้าจะไม่แวะไปที่นี่ก็ยังไงอยู่
อยากไปเที่ยวแบบเต็มๆจุกๆกลับมาประทับใจ
รู้ไว้ก่อนจะได้ไม่พลาดและใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า
.
1. มาก่อนเวลาเปิดอย่างน้อย 1 ชั่วโมง สวนสนุกเปิด 8 โมง
(พุ่งไปเล่นเครื่องเล่นสุดโปรดกันก่อนจะได้ไม่ต่อคิวนาน)
2.โหลดแอป USJ ทิ้งไว้ได้เลย มีประโยชน์มากๆ
(เสิร์จใน Google Play แล้วดาวโหลดทิ้งไว้)
3.โชว์ต่างๆที่จะจัดขึ้นระหว่างวัน สามารถดูได้ที่แอปด้านบนหรือเว็บนี้
4.Super nintendo world ต้องลงทะเบียนเข้าตามช่วงเวลา
(โซนนี้เป็นโซนพิเศษที่ต้องซื้อเพิ่มและเข้าตามรอบที่เราได้ลงทะเบียนไว้)
5.การใส่หมวกของที่นี่ช่วยเพิ่มความบันเทิงได้ พี่ๆสต๊าฟโคตรน่ารัก
6.Universal Spectacle Night Parade ยังไม่มีกำหนดจัด
7.Hogwarts Magical Night – Winter Magic
(ก่อนเวลาสวนสนุกปิดบางวันก็ไม่มีเช็คก่อนบุ๊คตั๋วเป็นอะไรที่สวยมากๆ)
8.โซน Donkey Kong จะมีมาเพิ่มในเร็วๆนี้ในโซน Super Ninteendo
9.อยากพักโรงแรมใกล้ๆ Universal ราคา 2000+
10.บัตร Express Pass เช็คก่อนซื้อ มีแบบ 4 และแบบ 7 เครื่องเล่น
11.เครื่องเล่นสำหรับคนชอบหวาดเสียว ทีมแพทย์พร้อมไม่ต้องห่วง
( The Flying Dinosaur , Hollywood Dream – The Ride )
12.เครื่องโปรดที่โคตรชอบ แบบว่าต้องรีบพุ่งตัวมาเล่นเพราะต่อคิวนาน
( Harry Potter , Mario Kart อิส ดา เบส !! )
13. ปิดปรับปรุง Jurassic Park – The Ride
( ณ ปัจจุบัน จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง)
14.ปิดถาวร The Amazing Adventures of Spider-Man
15. เพิ่มโซน โคนัน , ดาบพิฆาตอสูร และ My Hero Academia
16. ห้ามนำอาหารเข้าในสวนสนุก มีตรวจกระเป๋าก่อน
17. สายประหยัดอยากเติมพลังแนะนำ น่องไก่และน้ำตู้ 300 yen
18. ใครพาลูกเข้าไปในร้านค้า Harry ถ้าได้รับเป็นผู้ถูกเลือกไม้กายสิทธิ์
( คุณพ่อคุณแม่เตรียมเงินไว้ 5,500 yen )
19. บัตร Studio Pass 1 (2,068 บาท) แนะนำวันอังคาร-พฤหัส
20. เครื่องเล่นหรือโชว์ไม่จำกัดรอบ ซ้ำได้ตามสบาย
ปล.เล่นเพลินจนลืมถ่ายรูปตั้งแต่ 9 โมงถึง 1 ทุ่มบอกเลยคุ้มมว๊าก
เครื่องเล่นที่สนุกสุดๆก็ต้องยกให้ที่แฮรี่พอตเตอร์เลย
เราจองรอบไว้ตอนบ่าย 3 เข้ามาก็ประทับใจมากของจริงสวยและใหญ่โตมาก
ใครเลิฟมาริโอ้หล่ะก็ต้องไปพลาดโซนนี้
ส่วนเครื่องเล่นหวาดเสียวยกให้ที่นี่เลย
แวะถ่ายรูปเล่นชิคๆกันช่วงกลางคืน
ชมเปิดไฟที่ปราสาทก่อนเดินทางกลับ ถือว่าคอมพลีทแล้วชีวิตนี้ 5555
ญี่ปุ่นเป็นอะไรที่มาซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ยังเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของที่นี่ได้ตลอด
ไว้คราวหน้าเราจะพาเพื่อนๆไปชมความสวยงามของญี่ปุ่นกับที่อื่นกันดูบ้างรอติดตามกันนะค้าบบบ
ต้องบอกเลยว่าเป็น 5 วันที่สนุกมาก เดินทางเองไม่ยากอย่างที่คิดมีหลงทิศบ้าง
แต่ก็ไม่เสียเวลามากในการเดินทางกับรถไฟ ดูค่อนข้างง่ายนะเอาจริง
สนุกครบจบทุกฟีลชิลทุกโซน ได้ทุกอารมณ์จริงๆสำหรับโอซาก้าและเกียวโต
แนะนำจองที่พักกับตั๋วรถไฟไป-กลับสนามบินไว้ก่อน
หากใครมีเสริมเติมเข้ามาแนะนำกันได้เลยครับผม
บอกเลยว่าที่ญี่ปุ่นเนี่ยเป็นประเทศที่ไปกี่ครั้งก็ยังอยากตะโกนดังๆว่า...สวยโคตร!!
สรุปการเดินทาง
วันที่ 1 สนามบิน > Dotonbori > Tempozan Harbor Village
วันที่ 2 ที่พัก > Osaka castle > Namba Yasaka > Tsutenkaku Tower
วันที่ 3 ที่พัก > Uji > Nara > Shinsaibashi
วันที่ 4 ที่พัก > Kiyomizu-dera > Gion (เหมือนจะมีข่าวไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าแล้ว)
วันที่ 5 ที่พัก > Universal Japan
วันที่ 6 เดินทางกลับประเทศไทย